เวลาที่คอยคำตอบ
หลังจากที่นีร่าเปิดใจและบอกความรู้สึกกับภาม เธอรู้สึกเหมือนใจของเธอถูกแขวนไว้ในอากาศ ความไม่แน่นอนที่เขาขอเวลาคิดทำให้เธอไม่รู้จะก้าวไปทางไหน เธอต้องอดทนรอคำตอบ ซึ่งทำให้ทุกวันผ่านไปอย่างช้าและหนักอึ้ง
สัปดาห์นั้นผ่านไปอย่างยากลำบากสำหรับนีร่า ทุกครั้งที่เธอเจอภามที่โรงเรียน เธอพยายามหลบเลี่ยงสายตาของเขา เพราะกลัวว่าจะเผชิญหน้ากับความจริงที่เธออาจไม่พร้อมรับ เธอรู้ว่าภามกำลังพยายามทำตัวปกติ แต่บรรยากาศระหว่างพวกเขาก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
นีร่ากลับมานั่งที่โต๊ะเรียนและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เธอเลื่อนดูข้อความเก่า ๆ ที่เคยคุยกับภาม แต่ทุกข้อความกลับทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด เพราะมันทำให้เธอนึกถึงช่วงเวลาที่พวกเขาสนิทกันมากกว่านี้
ในช่วงเย็นของวันนั้น ขณะที่นีร่ากำลังนั่งเขียนนิยายอยู่ที่บ้าน เตยก็ส่งข้อความมาหาเธอ
เตย: เน คืนนี้ไปกินข้าวกันไหม? ฉันอยากเลี้ยงฉลองหน่อย :)
นีร่าคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบกลับ เธอรู้สึกว่าการออกไปกับเพื่อนอาจทำให้เธอหลุดจากความคิดมากมายที่วนเวียนในหัวได้
นีร่า: โอเค เจอกันที่ร้านโปรดนะ
ที่ร้านอาหาร เตยดูสดใสเหมือนเดิม เธอนั่งยิ้มและเล่าเรื่องราวระหว่างเธอกับธามอย่างตื่นเต้น นีร่าได้แต่ฟังและยิ้มไปกับเพื่อนรักของเธอ แม้ว่าภายในใจจะยังรู้สึกเศร้าและว่างเปล่า
“ธามน่ารักมากเลยนะเน! เขาทำให้ฉันรู้สึกพิเศษทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน” เตยพูดด้วยสายตาเป็นประกาย “ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าความรักจะทำให้รู้สึกดีแบบนี้”
นีร่าพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับยิ้มให้เตย แม้ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดที่ความรักของเธอเองยังคงไม่ชัดเจน
“แล้วเธอกับภามล่ะ เป็นยังไงบ้าง?” เตยถามขึ้นอย่างจริงจัง ราวกับจะจับความรู้สึกของนีร่าได้
นีร่าชะงักไปครู่หนึ่ง เธอไม่รู้จะตอบยังไง เพราะความสัมพันธ์ของเธอกับภามยังคงค้างอยู่ในความไม่แน่นอน
“เขายังไม่ตอบฉันเลย เขาขอเวลาคิด” นีร่าพูดเสียงเบา พลางก้มหน้าลง
“บางครั้งผู้ชายก็ต้องการเวลานะเน เธอไม่ต้องกังวลไปหรอก ภามดูเป็นคนที่คิดเยอะอยู่แล้ว” เตยพยายามปลอบ
แม้ว่าจะได้ยินคำปลอบใจจากเตย แต่นีร่าก็ยังไม่สามารถสลัดความรู้สึกกังวลในใจออกไปได้ เธอกลัวคำตอบที่จะมาถึง และไม่รู้ว่าตัวเองจะรับมือกับมันอย่างไร
วันต่อมา ขณะที่นีร่านั่งอยู่ในห้องเรียน ภามเดินเข้ามาหาเธอพร้อมสีหน้าที่จริงจัง เขานั่งลงข้าง ๆ เธอ โดยไม่ได้พูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง
นีร่ารู้สึกถึงความเงียบที่หนักอึ้ง เธอรู้ดีว่านี่คือเวลาที่ภามจะให้คำตอบ
“นีร่า...” ภามเริ่มพูดเสียงแผ่ว “ฉันคิดเรื่องของเราเยอะมากในสัปดาห์นี้”
นีร่าหายใจลึก พยายามควบคุมความรู้สึกที่ตีขึ้นมาในอก
“ฉันรู้สึกดีกับเธอมากนะ เธอเป็นคนที่เข้าใจฉัน และเราก็สนิทกันมาก แต่...” ภามหยุดไปครู่หนึ่ง นีร่ารู้สึกเหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง
“แต่ฉันไม่แน่ใจว่าความรู้สึกของฉันที่มีต่อเธอเป็นแบบเดียวกับที่เธอมีต่อฉัน” ภามพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและซื่อสัตย์
คำพูดนั้นเหมือนมีดกรีดหัวใจของนีร่า แม้ว่าเธอจะคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว แต่การได้ยินจากปากของภามทำให้ความเจ็บปวดชัดเจนยิ่งขึ้น
“ฉันขอโทษนะนีร่า ฉันไม่อยากทำร้ายเธอ ฉันแค่อยากให้เรายังเป็นเพื่อนกันได้” ภามพูดต่อ น้ำเสียงของเขาแสดงถึงความจริงใจ
นีร่ายิ้มบาง ๆ แม้ว่าในใจจะรู้สึกเหมือนแตกสลาย
“ไม่เป็นไรภาม ฉันเข้าใจ” เธอตอบพร้อมรอยยิ้มเศร้า ๆ “เรายังคงเป็นเพื่อนกันได้ ฉันโอเคจริง ๆ”
ภามพยักหน้าและยิ้มกลับให้เธอ เขาดูโล่งใจที่นีร่าตอบแบบนั้น แต่นีร่าเองรู้ดีว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะทำใจยอมรับ
สัปดาห์นั้นผ่านไปอย่างยากลำบากสำหรับนีร่า ทุกครั้งที่เธอเจอภามที่โรงเรียน เธอพยายามหลบเลี่ยงสายตาของเขา เพราะกลัวว่าจะเผชิญหน้ากับความจริงที่เธออาจไม่พร้อมรับ เธอรู้ว่าภามกำลังพยายามทำตัวปกติ แต่บรรยากาศระหว่างพวกเขาก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
นีร่ากลับมานั่งที่โต๊ะเรียนและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เธอเลื่อนดูข้อความเก่า ๆ ที่เคยคุยกับภาม แต่ทุกข้อความกลับทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด เพราะมันทำให้เธอนึกถึงช่วงเวลาที่พวกเขาสนิทกันมากกว่านี้
ในช่วงเย็นของวันนั้น ขณะที่นีร่ากำลังนั่งเขียนนิยายอยู่ที่บ้าน เตยก็ส่งข้อความมาหาเธอ
เตย: เน คืนนี้ไปกินข้าวกันไหม? ฉันอยากเลี้ยงฉลองหน่อย :)
นีร่าคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบกลับ เธอรู้สึกว่าการออกไปกับเพื่อนอาจทำให้เธอหลุดจากความคิดมากมายที่วนเวียนในหัวได้
นีร่า: โอเค เจอกันที่ร้านโปรดนะ
ที่ร้านอาหาร เตยดูสดใสเหมือนเดิม เธอนั่งยิ้มและเล่าเรื่องราวระหว่างเธอกับธามอย่างตื่นเต้น นีร่าได้แต่ฟังและยิ้มไปกับเพื่อนรักของเธอ แม้ว่าภายในใจจะยังรู้สึกเศร้าและว่างเปล่า
“ธามน่ารักมากเลยนะเน! เขาทำให้ฉันรู้สึกพิเศษทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน” เตยพูดด้วยสายตาเป็นประกาย “ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าความรักจะทำให้รู้สึกดีแบบนี้”
นีร่าพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับยิ้มให้เตย แม้ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดที่ความรักของเธอเองยังคงไม่ชัดเจน
“แล้วเธอกับภามล่ะ เป็นยังไงบ้าง?” เตยถามขึ้นอย่างจริงจัง ราวกับจะจับความรู้สึกของนีร่าได้
นีร่าชะงักไปครู่หนึ่ง เธอไม่รู้จะตอบยังไง เพราะความสัมพันธ์ของเธอกับภามยังคงค้างอยู่ในความไม่แน่นอน
“เขายังไม่ตอบฉันเลย เขาขอเวลาคิด” นีร่าพูดเสียงเบา พลางก้มหน้าลง
“บางครั้งผู้ชายก็ต้องการเวลานะเน เธอไม่ต้องกังวลไปหรอก ภามดูเป็นคนที่คิดเยอะอยู่แล้ว” เตยพยายามปลอบ
แม้ว่าจะได้ยินคำปลอบใจจากเตย แต่นีร่าก็ยังไม่สามารถสลัดความรู้สึกกังวลในใจออกไปได้ เธอกลัวคำตอบที่จะมาถึง และไม่รู้ว่าตัวเองจะรับมือกับมันอย่างไร
วันต่อมา ขณะที่นีร่านั่งอยู่ในห้องเรียน ภามเดินเข้ามาหาเธอพร้อมสีหน้าที่จริงจัง เขานั่งลงข้าง ๆ เธอ โดยไม่ได้พูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง
นีร่ารู้สึกถึงความเงียบที่หนักอึ้ง เธอรู้ดีว่านี่คือเวลาที่ภามจะให้คำตอบ
“นีร่า...” ภามเริ่มพูดเสียงแผ่ว “ฉันคิดเรื่องของเราเยอะมากในสัปดาห์นี้”
นีร่าหายใจลึก พยายามควบคุมความรู้สึกที่ตีขึ้นมาในอก
“ฉันรู้สึกดีกับเธอมากนะ เธอเป็นคนที่เข้าใจฉัน และเราก็สนิทกันมาก แต่...” ภามหยุดไปครู่หนึ่ง นีร่ารู้สึกเหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง
“แต่ฉันไม่แน่ใจว่าความรู้สึกของฉันที่มีต่อเธอเป็นแบบเดียวกับที่เธอมีต่อฉัน” ภามพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและซื่อสัตย์
คำพูดนั้นเหมือนมีดกรีดหัวใจของนีร่า แม้ว่าเธอจะคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว แต่การได้ยินจากปากของภามทำให้ความเจ็บปวดชัดเจนยิ่งขึ้น
“ฉันขอโทษนะนีร่า ฉันไม่อยากทำร้ายเธอ ฉันแค่อยากให้เรายังเป็นเพื่อนกันได้” ภามพูดต่อ น้ำเสียงของเขาแสดงถึงความจริงใจ
นีร่ายิ้มบาง ๆ แม้ว่าในใจจะรู้สึกเหมือนแตกสลาย
“ไม่เป็นไรภาม ฉันเข้าใจ” เธอตอบพร้อมรอยยิ้มเศร้า ๆ “เรายังคงเป็นเพื่อนกันได้ ฉันโอเคจริง ๆ”
ภามพยักหน้าและยิ้มกลับให้เธอ เขาดูโล่งใจที่นีร่าตอบแบบนั้น แต่นีร่าเองรู้ดีว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะทำใจยอมรับ