คำตอบของหัวใจ
นีร่ารู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนเมื่อได้ยินคำถามของภาม หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เธอรู้ดีว่านี่คือช่วงเวลาที่เธอต้องเลือกว่าจะเปิดเผยความรู้สึกที่เธอเก็บไว้มานาน หรือจะเก็บมันไว้ต่อไป
ภามยังคงจ้องมองนีร่าด้วยสายตาจริงจัง แววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและความสงสัย
“ความรู้สึกของตัวละครในนิยาย...” นีร่าเริ่มพูดออกมาอย่างลังเล เธอรู้สึกเหมือนกำลังเดินบนเชือกบาง ๆ ที่อาจขาดลงได้ทุกเมื่อ
“มันมาจากความรู้สึกของฉันจริง ๆ” นีร่าตอบเสียงแผ่ว รู้สึกโล่งใจเล็กน้อยที่ยอมรับความจริงออกมา แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความกังวลว่าเขาจะตอบกลับมาอย่างไร
ภามนิ่งไปครู่หนึ่ง ราวกับกำลังประมวลผลคำพูดของนีร่า เขาหันมามองเธออย่างละเอียดก่อนที่จะพูดออกมา
“นีร่า... งั้นตัวละครที่เธอเขียนถึง ใครคือคนที่เธอหมายถึงล่ะ?” ภามถามต่อ น้ำเสียงของเขานุ่มนวลแต่แฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง
คำถามนี้ยิ่งทำให้นีร่าสับสนและกลัวมากขึ้น แต่เธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป
“ภาม...” นีร่าพูดด้วยเสียงสั่น “ตัวละครในนิยายของฉัน... ตัวละครผู้หญิงคนนั้น... เธอมีความรู้สึกต่อผู้ชายคนหนึ่ง และคน ๆ นั้นก็คือเธอ”
หลังจากที่คำพูดนั้นออกจากปาก หัวใจของนีร่าก็รู้สึกเหมือนถูกปลดปล่อย แต่ในขณะเดียวกันเธอก็เตรียมใจรับผลที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นคำตอบที่เธอไม่อยากได้ยิน
ภามนิ่งเงียบไปชั่วครู่ เขามองหน้านีร่า แต่ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกจากปาก ความเงียบช่างน่ากลัวสำหรับนีร่า มันยาวนานจนเธอเริ่มรู้สึกหวั่นไหวและคิดไปต่าง ๆ นานา
"ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี..." ภามเริ่มพูดเสียงเบา "แต่ฉันไม่เคยคิดว่าฉันจะมีผลต่อเธอขนาดนี้"
นีร่ารู้สึกเหมือนใจหล่นวูบ เธอกำลังพยายามประเมินความหมายในคำพูดของภาม มันฟังดูเหมือนเป็นคำปฏิเสธ แต่เธอก็ยังไม่แน่ใจ
“ฉันไม่ได้บอกว่าไม่รู้สึกอะไรกับเธอนะนีร่า” ภามพูดต่อ “แค่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอจะรู้สึกแบบนี้กับฉัน และฉันก็ไม่แน่ใจว่าฉันพร้อมจะรับมือกับความรู้สึกนี้หรือเปล่า”
นีร่านิ่งเงียบ รู้สึกถึงความสับสนและความไม่แน่นอนที่กำลังวนเวียนอยู่ในใจของเธอ เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อ หรือจะทำอย่างไร
“แต่ฉันขอเวลาหน่อยได้ไหม? ฉันอยากคิดเรื่องนี้ให้ดีกว่านี้” ภามพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “ฉันไม่อยากให้มิตรภาพของเราต้องเปลี่ยนไปเพราะเรื่องนี้”
นีร่าไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไร เธอไม่คาดหวังคำตอบแบบนี้ แต่ก็เข้าใจในความรู้สึกของภามที่ยังไม่พร้อม
“โอเค ฉันเข้าใจ” นีร่าพูดเบา ๆ พร้อมยิ้มบาง ๆ ให้ภาม แม้ว่าภายในใจของเธอจะเต็มไปด้วยความผิดหวังก็ตาม
หลังจากการสนทนานั้น นีร่าเดินออกมาจากห้องสมุดและมานั่งที่โต๊ะใกล้สนามบาส เธอรู้สึกเหมือนโลกหมุนช้าลง ทุกอย่างรอบตัวดูเงียบสงบ แต่ในใจของเธอกลับรู้สึกสับสน
ขณะที่เธอกำลังนั่งคิดอยู่เพียงลำพัง เตยก็เดินเข้ามาหาเธอพร้อมใบหน้าที่ดูเต็มไปด้วยความสุข
“เน! ฉันมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง” เตยพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง นีร่าเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนรักของเธอ แล้วพยายามยิ้มออกมา
“ว่าไงล่ะ มีอะไรเหรอ?” นีร่าถาม พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเอง
“ธามบอกฉันว่าชอบฉันล่ะ!” เตยพูดพลางหัวเราะเบา ๆ “เขาชวนฉันไปดูหนังสุดสัปดาห์นี้ด้วย!”
นีร่ารู้สึกดีใจกับเพื่อนของเธอ แต่ก็อดรู้สึกเหงาเล็กน้อยไม่ได้ เพราะความรักของเธอกับภามดูจะยังอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ชัดเจน
“ดีจังเลย ฉันดีใจด้วยนะ” นีร่าตอบพร้อมยิ้มให้เตย แม้ว่าในใจจะยังรู้สึกหนักอึ้ง
ภามยังคงจ้องมองนีร่าด้วยสายตาจริงจัง แววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและความสงสัย
“ความรู้สึกของตัวละครในนิยาย...” นีร่าเริ่มพูดออกมาอย่างลังเล เธอรู้สึกเหมือนกำลังเดินบนเชือกบาง ๆ ที่อาจขาดลงได้ทุกเมื่อ
“มันมาจากความรู้สึกของฉันจริง ๆ” นีร่าตอบเสียงแผ่ว รู้สึกโล่งใจเล็กน้อยที่ยอมรับความจริงออกมา แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความกังวลว่าเขาจะตอบกลับมาอย่างไร
ภามนิ่งไปครู่หนึ่ง ราวกับกำลังประมวลผลคำพูดของนีร่า เขาหันมามองเธออย่างละเอียดก่อนที่จะพูดออกมา
“นีร่า... งั้นตัวละครที่เธอเขียนถึง ใครคือคนที่เธอหมายถึงล่ะ?” ภามถามต่อ น้ำเสียงของเขานุ่มนวลแต่แฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง
คำถามนี้ยิ่งทำให้นีร่าสับสนและกลัวมากขึ้น แต่เธอรู้ดีว่าเธอไม่สามารถปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป
“ภาม...” นีร่าพูดด้วยเสียงสั่น “ตัวละครในนิยายของฉัน... ตัวละครผู้หญิงคนนั้น... เธอมีความรู้สึกต่อผู้ชายคนหนึ่ง และคน ๆ นั้นก็คือเธอ”
หลังจากที่คำพูดนั้นออกจากปาก หัวใจของนีร่าก็รู้สึกเหมือนถูกปลดปล่อย แต่ในขณะเดียวกันเธอก็เตรียมใจรับผลที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นคำตอบที่เธอไม่อยากได้ยิน
ภามนิ่งเงียบไปชั่วครู่ เขามองหน้านีร่า แต่ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกจากปาก ความเงียบช่างน่ากลัวสำหรับนีร่า มันยาวนานจนเธอเริ่มรู้สึกหวั่นไหวและคิดไปต่าง ๆ นานา
"ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี..." ภามเริ่มพูดเสียงเบา "แต่ฉันไม่เคยคิดว่าฉันจะมีผลต่อเธอขนาดนี้"
นีร่ารู้สึกเหมือนใจหล่นวูบ เธอกำลังพยายามประเมินความหมายในคำพูดของภาม มันฟังดูเหมือนเป็นคำปฏิเสธ แต่เธอก็ยังไม่แน่ใจ
“ฉันไม่ได้บอกว่าไม่รู้สึกอะไรกับเธอนะนีร่า” ภามพูดต่อ “แค่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอจะรู้สึกแบบนี้กับฉัน และฉันก็ไม่แน่ใจว่าฉันพร้อมจะรับมือกับความรู้สึกนี้หรือเปล่า”
นีร่านิ่งเงียบ รู้สึกถึงความสับสนและความไม่แน่นอนที่กำลังวนเวียนอยู่ในใจของเธอ เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อ หรือจะทำอย่างไร
“แต่ฉันขอเวลาหน่อยได้ไหม? ฉันอยากคิดเรื่องนี้ให้ดีกว่านี้” ภามพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “ฉันไม่อยากให้มิตรภาพของเราต้องเปลี่ยนไปเพราะเรื่องนี้”
นีร่าไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไร เธอไม่คาดหวังคำตอบแบบนี้ แต่ก็เข้าใจในความรู้สึกของภามที่ยังไม่พร้อม
“โอเค ฉันเข้าใจ” นีร่าพูดเบา ๆ พร้อมยิ้มบาง ๆ ให้ภาม แม้ว่าภายในใจของเธอจะเต็มไปด้วยความผิดหวังก็ตาม
หลังจากการสนทนานั้น นีร่าเดินออกมาจากห้องสมุดและมานั่งที่โต๊ะใกล้สนามบาส เธอรู้สึกเหมือนโลกหมุนช้าลง ทุกอย่างรอบตัวดูเงียบสงบ แต่ในใจของเธอกลับรู้สึกสับสน
ขณะที่เธอกำลังนั่งคิดอยู่เพียงลำพัง เตยก็เดินเข้ามาหาเธอพร้อมใบหน้าที่ดูเต็มไปด้วยความสุข
“เน! ฉันมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง” เตยพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง นีร่าเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนรักของเธอ แล้วพยายามยิ้มออกมา
“ว่าไงล่ะ มีอะไรเหรอ?” นีร่าถาม พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเอง
“ธามบอกฉันว่าชอบฉันล่ะ!” เตยพูดพลางหัวเราะเบา ๆ “เขาชวนฉันไปดูหนังสุดสัปดาห์นี้ด้วย!”
นีร่ารู้สึกดีใจกับเพื่อนของเธอ แต่ก็อดรู้สึกเหงาเล็กน้อยไม่ได้ เพราะความรักของเธอกับภามดูจะยังอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ชัดเจน
“ดีจังเลย ฉันดีใจด้วยนะ” นีร่าตอบพร้อมยิ้มให้เตย แม้ว่าในใจจะยังรู้สึกหนักอึ้ง