ความสัมพันธ์ที่สับสน
เช้าวันต่อมา นีร่าเดินเข้าห้องเรียนพร้อมกับความคิดที่ตีกันในหัว เธอไม่อาจลบภาพของภามที่ทักเธอเมื่อวานออกจากหัวได้ การทักทายที่ดูธรรมดาแต่กลับทำให้ใจเธอสั่นไหวตลอดทั้งคืน
“เน เป็นไรหรือเปล่า? ดูเหม่อ ๆ นะ” เตยถามเมื่อเห็นนีร่านั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะ
“ฉันก็แค่คิดอะไรนิดหน่อย” นีร่ายิ้มบาง ๆ หวังว่าจะกลบความกังวลในใจได้
ก่อนที่เตยจะถามต่อ เสียงของครูที่เข้ามาในห้องก็ดังขึ้น ทุกคนกลับเข้าสู่บรรยากาศการเรียนปกติ แต่สำหรับนีร่าแล้ว การโฟกัสกับการเรียนดูเป็นเรื่องยากในวันนี้ เพราะเธอไม่อาจลบความรู้สึกที่เธอมีต่อภามออกจากใจได้
หลังเลิกเรียน นีร่ากับเตยกำลังเดินกลับบ้าน แต่วันนี้แตกต่างออกไป เพราะระหว่างทางพวกเขาเจอกับ ธาม ที่กำลังเดินคุยอยู่กับเพื่อนของเขา ธามเป็นคนที่มีทั้งความมั่นใจและเสน่ห์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เตยแอบชอบเขามานาน
“ธามอยู่ข้างหน้าเรา...” เตยกระซิบด้วยความตื่นเต้น
นีร่าเหลือบตามองธามที่กำลังหัวเราะกับเพื่อนของเขา เธอรู้ว่าเตยชอบเขามาก และทุกครั้งที่เตยเห็นธาม ใบหน้าของเธอจะเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเหมือนเด็กที่ได้ของขวัญ
“ไปทักเขาดูสิ” นีร่าแกล้งพูดเชิงกระตุ้น
“ไม่เอาหรอก! ฉันจะทำตัวเหมือนเขาเป็นอากาศ ไม่กล้าไปทักหรอก” เตยตอบพร้อมหัวเราะเขิน ๆ
ขณะที่พวกเธอกำลังจะเดินผ่านกลุ่มของธาม จู่ๆ ธามก็หันมาและเรียกชื่อเตย
“เตย!” ธามพูดขึ้น
เตยหยุดกึก ใจเต้นแรงจนแทบจะได้ยิน
“หวัดดีครับ” ธามยิ้มอบอุ่นและทักทายอย่างเป็นกันเอง เขาทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับเตยแล้ว นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญ
“หวัดดี...” เตยตอบเสียงเบา พร้อมพยายามเก็บอาการเขินอาย
ธามและเพื่อนของเขาเดินจากไป แต่หัวใจของเตยยังคงเต้นแรงไม่หยุด เมื่อพวกเขาหายไปจากสายตา เตยก็หันไปหานีร่าทันที
“เน! เขาทักฉัน! ธามทักฉันจริง ๆ!” เตยพูดด้วยความตื่นเต้นเต็มเปี่ยม
นีร่ายิ้มให้เพื่อนของเธออย่างมีความสุข “ฉันบอกแล้วว่าเธอควรไปทักเขาก่อน แต่เขาทักเธอก่อนเสียอีก”
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย! มันเหมือนความฝัน” เตยพูดพร้อมกับจับมือของนีร่าแน่น
คืนนั้น หลังจากที่กลับถึงบ้าน นีร่านั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เธอเปิดไฟล์นิยายที่เธอกำลังเขียนและมองดูตัวละครของเธอที่กำลังเจอกับปัญหาคล้าย ๆ กันกับชีวิตจริงของเธอ
“ทำไมมันถึงยากขนาดนี้นะ... ความรู้สึกที่เรามีต่อคนคนหนึ่ง แต่ไม่กล้าบอก” นีร่าเขียนประโยคนี้ลงในนิยายของเธอ
ทุกครั้งที่นีร่าเขียนนิยาย เธอรู้สึกว่ามันเป็นเหมือนการปลดปล่อยความรู้สึกที่เธอไม่กล้าพูดออกมา ความรู้สึกที่มีต่อภาม และความกลัวที่ว่าถ้าเธอพูดออกไป ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาอาจเปลี่ยนไปตลอดกาล
วันต่อมา ในช่วงพักกลางวัน นีร่านั่งอยู่ในห้องสมุดกับเตย ขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกัน จู่ ๆ ภามก็เดินเข้ามา นีร่าตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเขาเดินตรงมาทางพวกเธอ
“เน ฉันขอนั่งด้วยได้ไหม?” ภามถามด้วยเสียงเรียบ ๆ
“อ๋อ ได้สิ” นีร่าพูดอย่างประหม่า
ภามนั่งลงข้าง ๆ นีร่า ในขณะที่เตยมองดูทั้งสองคนด้วยความสงสัย
“เธอกำลังทำอะไรอยู่เหรอ?” ภามถามขึ้น
“ก็... แค่อ่านหนังสือ” นีร่าตอบด้วยเสียงสั่นเล็กน้อย เธอไม่เคยคุยกับภามอย่างใกล้ชิดแบบนี้มาก่อน
“ฉันเห็นเธอชอบเขียนนิยายนะ เธออยากให้ฉันอ่านบ้างหรือเปล่า?” ภามถามต่อด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจัง
นีร่าตกใจเล็กน้อย “เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันเขียนนิยาย?”
“ก็ฉันเห็นเธอเขียนตลอดเวลา... และฉันก็สนใจที่จะอ่านมันด้วย” ภามตอบพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ
นีร่าหัวใจเต้นแรง ไม่คิดว่าภามจะสนใจงานเขียนของเธอจริง ๆ
“ถ้าเธออยากอ่าน ฉันจะส่งให้ก็ได้นะ” นีร่าพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีความกลัวเล็กน้อยว่าภามจะคิดอย่างไรกับนิยายของเธอ
“ฉันรออ่านอยู่” ภามตอบพร้อมยิ้ม
“เน เป็นไรหรือเปล่า? ดูเหม่อ ๆ นะ” เตยถามเมื่อเห็นนีร่านั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะ
“ฉันก็แค่คิดอะไรนิดหน่อย” นีร่ายิ้มบาง ๆ หวังว่าจะกลบความกังวลในใจได้
ก่อนที่เตยจะถามต่อ เสียงของครูที่เข้ามาในห้องก็ดังขึ้น ทุกคนกลับเข้าสู่บรรยากาศการเรียนปกติ แต่สำหรับนีร่าแล้ว การโฟกัสกับการเรียนดูเป็นเรื่องยากในวันนี้ เพราะเธอไม่อาจลบความรู้สึกที่เธอมีต่อภามออกจากใจได้
หลังเลิกเรียน นีร่ากับเตยกำลังเดินกลับบ้าน แต่วันนี้แตกต่างออกไป เพราะระหว่างทางพวกเขาเจอกับ ธาม ที่กำลังเดินคุยอยู่กับเพื่อนของเขา ธามเป็นคนที่มีทั้งความมั่นใจและเสน่ห์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เตยแอบชอบเขามานาน
“ธามอยู่ข้างหน้าเรา...” เตยกระซิบด้วยความตื่นเต้น
นีร่าเหลือบตามองธามที่กำลังหัวเราะกับเพื่อนของเขา เธอรู้ว่าเตยชอบเขามาก และทุกครั้งที่เตยเห็นธาม ใบหน้าของเธอจะเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเหมือนเด็กที่ได้ของขวัญ
“ไปทักเขาดูสิ” นีร่าแกล้งพูดเชิงกระตุ้น
“ไม่เอาหรอก! ฉันจะทำตัวเหมือนเขาเป็นอากาศ ไม่กล้าไปทักหรอก” เตยตอบพร้อมหัวเราะเขิน ๆ
ขณะที่พวกเธอกำลังจะเดินผ่านกลุ่มของธาม จู่ๆ ธามก็หันมาและเรียกชื่อเตย
“เตย!” ธามพูดขึ้น
เตยหยุดกึก ใจเต้นแรงจนแทบจะได้ยิน
“หวัดดีครับ” ธามยิ้มอบอุ่นและทักทายอย่างเป็นกันเอง เขาทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับเตยแล้ว นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญ
“หวัดดี...” เตยตอบเสียงเบา พร้อมพยายามเก็บอาการเขินอาย
ธามและเพื่อนของเขาเดินจากไป แต่หัวใจของเตยยังคงเต้นแรงไม่หยุด เมื่อพวกเขาหายไปจากสายตา เตยก็หันไปหานีร่าทันที
“เน! เขาทักฉัน! ธามทักฉันจริง ๆ!” เตยพูดด้วยความตื่นเต้นเต็มเปี่ยม
นีร่ายิ้มให้เพื่อนของเธออย่างมีความสุข “ฉันบอกแล้วว่าเธอควรไปทักเขาก่อน แต่เขาทักเธอก่อนเสียอีก”
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย! มันเหมือนความฝัน” เตยพูดพร้อมกับจับมือของนีร่าแน่น
คืนนั้น หลังจากที่กลับถึงบ้าน นีร่านั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เธอเปิดไฟล์นิยายที่เธอกำลังเขียนและมองดูตัวละครของเธอที่กำลังเจอกับปัญหาคล้าย ๆ กันกับชีวิตจริงของเธอ
“ทำไมมันถึงยากขนาดนี้นะ... ความรู้สึกที่เรามีต่อคนคนหนึ่ง แต่ไม่กล้าบอก” นีร่าเขียนประโยคนี้ลงในนิยายของเธอ
ทุกครั้งที่นีร่าเขียนนิยาย เธอรู้สึกว่ามันเป็นเหมือนการปลดปล่อยความรู้สึกที่เธอไม่กล้าพูดออกมา ความรู้สึกที่มีต่อภาม และความกลัวที่ว่าถ้าเธอพูดออกไป ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาอาจเปลี่ยนไปตลอดกาล
วันต่อมา ในช่วงพักกลางวัน นีร่านั่งอยู่ในห้องสมุดกับเตย ขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกัน จู่ ๆ ภามก็เดินเข้ามา นีร่าตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเขาเดินตรงมาทางพวกเธอ
“เน ฉันขอนั่งด้วยได้ไหม?” ภามถามด้วยเสียงเรียบ ๆ
“อ๋อ ได้สิ” นีร่าพูดอย่างประหม่า
ภามนั่งลงข้าง ๆ นีร่า ในขณะที่เตยมองดูทั้งสองคนด้วยความสงสัย
“เธอกำลังทำอะไรอยู่เหรอ?” ภามถามขึ้น
“ก็... แค่อ่านหนังสือ” นีร่าตอบด้วยเสียงสั่นเล็กน้อย เธอไม่เคยคุยกับภามอย่างใกล้ชิดแบบนี้มาก่อน
“ฉันเห็นเธอชอบเขียนนิยายนะ เธออยากให้ฉันอ่านบ้างหรือเปล่า?” ภามถามต่อด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจัง
นีร่าตกใจเล็กน้อย “เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันเขียนนิยาย?”
“ก็ฉันเห็นเธอเขียนตลอดเวลา... และฉันก็สนใจที่จะอ่านมันด้วย” ภามตอบพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ
นีร่าหัวใจเต้นแรง ไม่คิดว่าภามจะสนใจงานเขียนของเธอจริง ๆ
“ถ้าเธออยากอ่าน ฉันจะส่งให้ก็ได้นะ” นีร่าพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีความกลัวเล็กน้อยว่าภามจะคิดอย่างไรกับนิยายของเธอ
“ฉันรออ่านอยู่” ภามตอบพร้อมยิ้ม